จิตวิทยา: สิ่งที่แตกต่างระหว่างนักฟุตบอลระดับเทพ กับ นักฟุตบอลทั่วไป
ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งชมการสัมภาษณ์นักฟุตบอลไทยในรายการหนึ่ง เป็นการพูดคุยถึงเส้นทางชีวิต และประสบการณ์ของนักฟุตบอลท่านนั้น
ผู้ที่มีชื่อเสียงไกลระดับนานาชาติ เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติไทย เขาคนนั้นคือ เจ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ หรือ เมสซี่เจ ของแฟนบอลชาวไทย หรือ ชนาคุง แข้งไทยขวัญใจแฟนบอลเจลีก
ในหลายสื่อที่เราคงได้เคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง เล่าเรื่องราวของ เจ ในหลายแง่มุม ทั้งความสำเร็จ ที่ได้ไปโลดแล่นอยู่ใน เจลีก ของญี่ปุ่น ทั้งความพยายามจนสามารถเอาชนะคำสบประมาทของผู้คน จนได้กลายมาเป็นนักเตะไทย ตัวเล็ก ที่สร้างชื่อเสียง และนำความภาคภูมิใจมาสู่ตนเองและครอบครัวได้สำเร็จ
ทุกคนรู้ว่า เจ ชนาธิป เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และเป็นตัวอย่างที่ดีให้รุ่นน้อง โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นคนไม่ยอมแพ้ มีความอดทน พยายาม และ มีความถ่อมตัวอย่างยิ่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมเขาจึงได้เป็นขวัญใจของแฟนบอล
เจ เป็นนักเตะที่เก่งมากๆของประเทศเรา ไม่ใช่เพราะความสามารถในสนามเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เจ สามารถก้าวข้าม จากการเป็นนักเตะธรรมดาทั่วไปก็คือ เรื่องของ Mindset หรือ ความคิด ทัศนคติ การมองโลกของเขา ที่ทำให้เขา โดดเด่น ทั้งในและนอกสนาม
เขาได้สิ่งนี้มาผ่านการฝึกหนักจากพ่อ ผู้ที่ไม่เคยโอนอ่อนผ่อนปรน ผู้ที่คอยบังคับ ขู่เข็น และเคี่ยวเข็ญเขา ตั้งแต่ยังเล็ก ผู้ที่คอยฉุดดึงให้เขา ตั้งมั่นอยู่ในความอดทน อยู่ในความพยายาม ผู้ที่คอยตักเตือนเขาเสมอว่า จงสู้กับข้อจำกัดของตัวเอง และทำลายความกลัว เอาชนะคำดูถูก ด้วยการเอาชนะใจของตัวเอง นี่คือเคล็ดวิชาที่เขาได้เรียนรู้และฝึกฝนอย่างหนักตลอดเวลาที่ผ่านมา หล่อหลอมให้จิตใจของเขา แข็งแกร่งมากพอ ที่จะเอาชนะอุปสรรค และทะยานขึ้นสู่ความเป็นมืออาชีพได้อย่างที่เราได้เห็นกัน
จิตวิทยา หรือเรื่องของจิตใจ เป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นตัวสำคัญที่จะชี้ชะตาว่า นักฟุตบอลคนไหน จะประสบความสำเร็จหรือร่วงลงสู่หุบเหว ติดกับดักความคิดของตัวเอง เพราะว่า จิตใจเป็นตัวกำหนดว่า เราจะสู้หรือถอย เราจะอดทนฝึกซ้อม หรือจะยอมแพ้ให้ความขี้เกียจ
นักจิตวิทยาการกีฬา ให้คำแนะนำ 5 อย่าง ที่จะช่วยให้นักกีฬาสามารถจัดการกับภาวะในจิตใจ และมีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จทางกีฬาได้ ได้แก่
1. การสร้างมโนภาพแห่งความสำเร็จ (Visualization) ใช้สมาธิจินตนาการว่าตัวเองนั้น ทำอะไรอยู่ในสนาม วิ่งอย่างไร เท้าข้างไหน ก้าวไปทิศไหน มองเห็นใครที่กำลังวิ่งมารับบอล เห็นทิศทางการเคลื่อนของฟุตบอลอยู่ในหัว และมองเห็นตัวเองยิงประตูได้ด้วยการจินตนาการแบบละเอียด ให้เห็นภาพในหัวเคลื่อนไหว มีส่วนช่วยให้สมองสั่งการให้ทำในแบบที่คิด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นได้อย่างน่าอัศจรรย์
2. ย้ำกับตัวเองถึงสิ่งที่ต้องการ (Self-talk) คล้ายสะกดจิตตัวเองให้เชื่อว่า เรามีความมั่นใจมากพอ เราทำได้ เราเอาชนะได้ เรามีหนทางที่จะทำได้ สิ่งนี้เป็นจิตวิทยาที่ต้องฝึกเสมอ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการยิงลูกโทษ คนที่ยิงด้วยความรู้สึกว่าต้องยิงเข้าแน่นอนในหัว จะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าคนที่ลังเลใจหรือ กลัวที่จะยิงไม่เข้า และยังมีประโยชน์ในแง่แรงจูงใจ ย้ำว่าต้องฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จที่ยังมองไม่เห็นให้ได้ เช่น ฝืนใจไปซ้อม แทนที่จะนอนเล่นเกม เป็นต้น
3. มองเห็นเป้าหมายชัดเจน (Set clear target) รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และควบคุมการเล่นของตัวเองให้เป็นไปในทางที่ตัวเองต้องการมากกว่าพยายามควบคุมคนอื่น เมื่อเราสามารถคุมตัวเองได้ดีแล้ว จะทำให้มองเห็นสิ่งที่ต้องการชัดเจนขึ้น และสามารถเอาชนะอุปสรรคที่ขวางอยู่ได้ เพราะเข้าใจว่า สิ่งอื่นนั้น อยู่นอกเหนือการควบคุม เมื่อไม่อาจกำหนดได้ จึงไม่เสียเวลาไปกับการโทษสิ่งอื่น
4. บ้าคลั่งในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง (Obsessed with learning and improving) รู้ว่าตัวเองยังต้องเรียนรู้ ยังต้องปรับปรุงอยู่เสมอ ยังไม่เก่ง ยังไม่ดีพอ กระหายอยากที่จะเอาชนะ โดยการหมั่นฝึกฝน พัฒนาตัวเอง ไม่หยุดอยู่แค่ชื่อเสียงเล็กๆน้อยๆที่ไม่ยั่งยืน แต่จะพยายามกำจัดความคิดนั้นด้วยการขยันหมั่นเพียร เพื่อเอาชนะใจตัวเอง มากกว่าเอาชนะคนอื่นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
5. รักษาจิตใจและบุคลิกของผู้ชนะอยู่เสมอ (Keep the winner’s mind and body language) ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด เป็นผู้เล่นสำรอง หรือ อยู่ในสนามในจังหวะที่ไม่มีบอล หรือในระหว่างฝึกซ้อม ในใจต้องคิดเสมอว่า เราจะทำทุกสิ่งเพื่อให้เกิดชัยชนะ ถ้าไม่งั้น จะทำไปทำไม และต้องแสดงออกให้เห็นว่า เราคือผู้ชนะในทางภาษากายด้วย เช่น มีความมั่นใจแต่ไม่อวดดี มีความจดจ่อกับสิ่งที่ทำ มีไหวพริบในการแสดงออก และมักเรียนรู้อยู่เสมอ
ดังที่อดีตซีอีโอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Steve Jobs ได้เคยกล่าวไว้ว่า Stay hungry, stay foolish จงอย่าหยุดที่จะกระหายอยาก และจงทำตัวเป็นคนที่โง่อยู่เสมอ นั่นหมายความว่า ถ้าอยากเป็นคนที่เก่ง ในหัวจงรักษความกระหายอยากในสิ่งที่ทำ และจงคิดเสมอว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ และต้องเรียนรู้ปรับปรุงตัวอยู่เสมอ
นั่นเองจึงเป็นหนทางของความสำเร็จอย่างแท้จริง และนี่คือ หลักจิตวิทยา ที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จ แตกต่างจากคนอื่นทั่วไป
เขียนโดย Saito Hajime.
The Lite Team.