เลาะรั้วปีศาจแดง: ศิษย์ ‘เฟอร์กี้’ รายล่าสุด ที่ดูมีแววรุ่งในการคุมทัพ
มีนักเตะมากมายที่ผ่านมือของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ที่ก้าวขึ้นไปรับบทบาทเป็นผู้จัดการทีมจนถึงขนาดสร้างชื่อให้กับตนเองได้
ตลอดเวลา 27 ปีที่บรมกุนซือเลือดสก็อตคุมทัพ ‘ปีศาจแดง’ ได้สร้างนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมามากมาย ทั้งที่เป็นลูกหม้อของทีม รวมถึงการดึงนักเตะโนเนมสักคน เอามาปั้นจากดินให้เป็นดาว
แต่จะมีสักกี่คน ที่หลังจากยุติบทบาทในการวาดลวดลายบนผืนหญ้า แล้วไปเริ่มงานใหม่ที่ข้างสนามด้วยการเป็นผู้จัดการทีม แถมคนที่เรียกได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของ ‘เฟอร์กี้’ แล้วประสบความสำเร็จในการเป็นกุนซือก็แทบจะนับนิ้วได้...แทบจะกำมือนับเลยล่ะ
แน่นอนว่า แฟนบอล พรีเมียร์ลีก คงจะเคยได้เห็นฝีไม้ลายมือของ สตีฟ บรูซ มาบ้างแล้ว ที่ได้แต่คุมทีมที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย หรือเรียกได้ว่าหนักไปทาง ‘ทีมหนีตกชั้น’ ซะมากกว่า หรืออาจจะเป็นกัปตันทีมขาโหดอย่าง รอย คีน ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในการคุมทีม ซันเดอร์แลนด์ และ อิปสวิช ทาวน์ จนหลังๆต้องเปลี่ยนอาชีพตัวเองไปเป็นนักวิเคราะห์เกมแทน
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ได้เข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงแรกที่เข้ามาเป็นกุนซือขัดตาทัพ ก็ดูเหมือนจะโอเค แต่พอได้รับสัญญาถาวรเท่านั้นแหละ ผลงานก็ลูกผีลูกคน และก็ไม่มีถ้วยรางวัลไปประดับให้กับสโมสรได้เลย
ยังมีอีกลูกศิษย์ของป๋าอีก 2 รายที่ได้เข้ามาคุมทัพ ‘เร้ด เดวิลล์’ ซึ่งก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ และ ไมเคิล คาร์ริก ที่ได้มาคุมทีมชั่วคราว โดยรายแรกได้คุมไป 4 นัด และรายหลังได้คุม 3 นัด ซึ่งยอมรับตามตรงว่าอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ‘ดูมีทรง’ มากที่สุดในตอนนี้
ตอนนี้เจ้าตัวได้โอกาสในการไปคุม มิดเดิลสโบรช์ ใน แชมเปี้ยนชิพ เริ่มแรกตอนที่เข้าไปรับงาน ทีมอยู่อันดับที่ 21 เรียกง่ายๆว่า ‘งานโคตรหิน’ แต่เจ้าตัวก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม คุมในลีกไปแล้ว 11 นัด ชนะถึง 8 เสมออีก 1 และแพ้ไปเพียงแค่ 2 นัด ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ที่อยู่ในโซนเพลย์ออฟขึ้นลีกสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย
จากทีมหนีตกชั้น กลายมาเป็นทีมลุ้นเลื่อนชั้น ภายในระยะเวลาเกือบๆ 3 เดือนเท่านั้นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ก็เป็นเพียงแค่ก้าวแรกเล็กๆของอดีตกองกลางหมายเลข 16 ที่ได้รับโอกาสในการคุมทีมแบบเต็มตัวเป็นครั้งแรก อาจจะแค่ดูหวือหวาวูบวาบแบบครั้งที่ ‘เพชฌฆาตหน้าทารก’ เคยทำไว้สมัยรับงานต่อจาก เดวิด มอยส์ ก็ได้ และที่สำคัญ จุดที่เจ้าตัวอยู่ก็ยังเป็นเพียงแค่ลีกระดับ 2 ของประเทศเท่านั้น ไว้ต้องรอดูกันยาวๆว่า ถ้าได้เจอ ‘ของจริง’ แล้วจะไปต่อไหวหรือเปล่า?