เพราะพวกเขาเคยผลิตแข้งระดับพระกาฬ ขึ้นบรรเลงเพลงตีนมากมายในโลกลูกหนัง แต่สิ่งนั้นกลับค่อยๆหายไปตามกาลเวลา เอาล่ะ เรามาลองดูรายชื่อ 25 ผู้เล่นชุดลุยศึกพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ของพวกเขากัน นอกจาก เจมส์ วอร์ด พราวส์ มิดฟิลด์เท้าชั่งทอง และ ธีโอ วัลคอตต์ อดีตตัวรุกสปีดเสือดาวของ ‘ปืนใหญ่’ แล้วนั้น กลับไม่มี “แข้งสามเณร” รายไหน ทะลุซองถุงยางขึ้นมาแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้เลย

จริงอยู่ครับที่พวกเขามี ‘พ่อค้าแข้งอายุน้อย แต่พรสวรรค์มาก’ เต็มทีมไปหมด แต่ล้วนแล้วแต่เป็นการดึงตัวมาจากทีมอื่นๆทั้งสิ้น หลักๆเลยคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของถ้วยแชมป์ลีกแห่งเมืองผู้ดี ที่โดนไป 4 คน

ซามูเอล เอโดซี่ (19), ฆวน ลาริออส (18), กาวิน บาซานู (20) และ โรมีโอ ลาเวีย (18) ส่วนกำลังหลักคนสำคัญทางกราบขวาอย่าง ทิโน่ ลิฟราเมนโต้ (20) ย้ายมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 5.9 ล้านยูโร

อืมมมม์…แบบนี้ก็พอจะพูดได้ว่า พวกเขาไม่ใช่ “สโมสรจอมปั้นเด็ก” อีกต่อไปแล้ว กลายเป็น “สโมสรจอมแต๊บเด็ก” เสียมากกว่า

ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย คอขาดบาดตายอะไรหรอกครับ แค่มันเสียดายกลิ่นไอความรู้สึกเก่าๆ เพราะย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน เรายังได้เชยชมเพื่อนร่วมรุ่นของ วอร์ด พราวส์ กันอยู่เลย อาทิ ลุค ชอว์, อดัม ลัลลาน่า, คาลัม แชมเบอร์ส, เบน รีฟส์ หรือ แซม ฮอสกิ้น (รายสุดท้ายอาจชื่อเสียงไม่ดังมากนัก)

ดูเหมือนว่า มีการปรับโครงสร้างภายในสโมสรมากพอสมควร หลังการเข้าเทคโอเวอร์ของ เกา จีเฉิง มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่แดนมังกร ในปี 2017 ที่เพิ่งขายสโมสรไปให้กับกลุ่มทุน Sport Republic ของ ดราแกน โชลาก นักธุรกิจชาวเซอร์เบียน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ในฐานะแฟนบอลที่แอบติดตาม “นักบุญแห่งแฮมเชอร์” อยู่ห่างๆ ผมก็อยากเห็นแข้งอคาเดมี่ของพวกเขา กลับมารุ่งเรืองและสร้างสีสันให้กับ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง

รับรองได้ว่า พวกหนูๆเล่นดีแค่ปีเดียว ลิเวอร์พูล ก็จะติดต่อขอซื้อไปแน่นอน (ฮา)